21 มิถุนายน 2555

CANTON SUKI

วันนี้ ไปกินไหนกันดีเอ่ย? สุกี้มั๊ย? เอิ่ม.. ก็ดีแหะ แต่ว่าร้านตามห้างก็เบื่อๆ งั้นไปกินร้านดั้งเดิมกันดีกว่าที่ แคนตั้นสุกี้ จ้าาาา...

ร้านนี้ มีมานานมากกแล้ว เมื่อก่อนอยู่ที่สยามสแควร์ ตรงข้ามโคคาสุกี้ ซึ่งตอนนี้สร้างตึกไปแล้ว
แต่ตอนนี้ ย้ายมาตั้งที่ตเชิงสะพานพระรามแปด ฝั่งขาออก นะจ้ะ

ร้านนี้เมื่อก่อนตอนอยู่สยามเป็นร้านที่ใหญ่มากและต้องต่อคิวคล้ายๆกับตามห้างสมัยนี้ --- แต่ตั่งแต่กินมา นาน มว๊ากกกกกกกกกกกกก
ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยทั้งพนักงานถ้วยจานชามทุกสิ่งอย่างยังคงสภาพเดิมทั้งหมด ที่ว่านานนี่หลายสิบปีแล้วนา 5555

อาวุธพวกนี้ คงมีอายุมากกว่าหลายๆ คนที่อ่านอยู่ตอนนี้ จิงๆนะ ^_^

น้ำจิ้มรสนี้ อยู่ในความทรงจำ อยากบอกว่า... เราชอบมากว่าตามห้างมากมายจ้า

ส่วนเมนูอันนี้ จำไม่ได้และว่า ใหม่หรือเก่า แต่คงใหม่แหละ เพราะว่าเปิดทุกวัน ถ้ารอดมาได้เป็นสิบปี ก็เมพเกินหล่ะ

เมนูก็พื้นๆ ไม่ได้สวยมาก ราคาก็ตามประสาสุกี้แหละ ตกหัวละสองสามร้อย จิงๆเราเคยคิดว่า กินสุกี้นี่ ราคาเท่ากิน buffet เลยอ่ะ ^^"

ขาดไม่ได้สำหรับเราชาวไทย พริก กระเทียม มะนาว จัดไป!

ของที่เราขาดไม่ได้ก็ ลูกชิ้นกุ้งพิเศษ ปลาหมึกแช่ หมูหมัก --- ไม่เคยถูกใจลูกชิ้นกุ้งที่ไหนเท่าที่นี่เลย
ปล. อยากจะบอกว่า... ไอ้ถ้วยพวกเนี้ย อายุอานามมากกว่าเราแน่นอน สุดๆไปเลย

นี่แหละ "ลูกชิ้นกุ้งพิเศษ" ที่เรารู้สึกว่า ไม่มีที่ไหนเหมือน เราชอบสุดล่ะที่นี่ เคล็ดลับคือ ก่อนลงหม้อ ต้องตีให้แบนๆก่อน ไม่งั้นสุกแล้วเด้งๆ คีบยาก

เอาเทคนิค การใส่ไข่ของเรามาแชร์ ก่อนอื่น... ตีไข่ให้ฟูได้ที่ แล้วเอากระชอนมายกสูงๆ แล้วเทผ่านกระชอนลงไปเลย
เราก็จะได้ไข่ที่ฟู สวยเลยทีเดียว แต่น้ำต้องเดือด และไม่มีอะไรในหม้อนะจ๊ะ

รสชาติก็คงไม่พ้นสุกี้ทั่วๆไป แต่มีกลิ่นอายดั้งเดิมอ่ะ มันบอกไม่ถูก จะว่าคล้ายกับตามห้างก็ได้ แต่มันก็มีความพิเศษของตัวเอง
จริงๆ ยังไงแล้ว เราก็ถูกใจร้านนี้ มากกว่าตามห้างมาก --- อย่างเดียวที่เราชอบน้อยกว่าคือ เป็ดย่าง อันนั้นต้องยกให้เค้าจริงๆ ^^"

และที่เราขาดไม่ได่ถ้ามาที่นี่ ก็คือ "หมี่หยกน้ำมันหอย" เอามันแค่นี้แหละ สุดๆแล้ว ความพิเศษคือ หมี่หยกที่นี่นวดเองทุกวัน รสและกลิ่นเลยไม่เหมือนที่อื่น ขอบอกว่าชอบมาก

ส่วนจานนี้ของท่านพ่อ มีกระเทียมเจียวด้วย อร่อยอีกแบบ

จานนี้ "ข้าวอบซี่โครงหมู" --- เราว่ารสชาติกลางๆนะ ไม่ได้อร่อยเหาะ แต่ก็ไม่แย่ กินเล่นได้

ซูมนมม... กันสักนิด --- texture ดูดีทีเดียว พี่เราชอบ เห็นมาทีไรก็สั่งอ่ะ

ปิดท้ายกันด้วยของหวาน "ลูกบัวเย็น" --- จริงๆ เราชอบนะ แต่ถ้าเทียบกับร้านในห้าง เราว่าที่นี่ทำได้ไม่ดีเท่า
เพราะฉะนั้นถ้าประลองกัน จานนี้ต้องยกให้ร้านตามห้างชนะ

เม็ดบัวคัดมาไม่ดีอ่ะ มีเม็ดแก่เยอะไปหน่อย ทำให้แข็ง เคี้ยวแล้วไม่ชอบเลย แต่รสชาติความหอมความหวาน ก็โอ

สรุปว่า...

1. รสชาติ --- อร่อยแบบดั้งเดิมดี มีกลิ่นอายบางอย่างที่ร้านแมสตามห้างให้ไม่ได้

2. บรรยากาศ --- เหมือนสมัยก่อนเด๊ะ

3. การบริการ --- พนักงานส่วนใหญ่ คุ้นหน้าคุ้นตากันมาเป็นสิบปี เลยต่อยข้างเทคแคดีทีเดียว

4. ราคา --- ก็หนาวอยู่เหมือนกันเวลาเรียกเก็บตังค์



16 มิถุนายน 2555

BUTA KATSU

หวัดดีจร้าา... และแล้วเราก็กลับมาสู่เมืองกรุงกัน ^^ จำได้มะที่ว่า เซ็นปิ่นมีร้านเปิดใหม่ ที่จะพาไปชิมกัน คราวนี้ได้ฤกษ์และ ป่ะ ไปกินกันที่ร้าน BUTA KATSU กันจ้าาาา...


ร้านนี้อยู่ที่ชั้น 5 หรือชั้นโรงหนังน่ะแหละ อยู่ติดบันไดเลื่อนฝั่งลานจอดรถ ขึ้นมาปุ๊ป ก็เจอร้านเลย อยู่ข้างๆ HACHIBAN นะ

ร้านก็ตกแต่งธรรมดา เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่น ทั่วๆไปอ่ะนะ

อีกมุมนึงของร้าน เห็นมะ ข้างๆ ฮะจิบังเลย

ร้าน BUTA KATSU ก็คงไม่พ้นหมูทอดแหละ ชื่อชัดซะขนาดนั้น เนอะ งั้นมาดูเมนูกันเลย แต่ว่าแค่รูปหน้าปกก็อยากกินแล้วอ่ะ น้ำลายไหลๆ

เปิดมาก็เจอเลย ซิกเนเจอร์ของร้าน เมนูหมูทอดหลากหลายมาก ในหน้านี้ ก็มีไส้ให้เลือกบานเลย เราชอบนะ ไม่จำเจดี
ที่เห็นก็จะมีไส้ชีส เบคอน ครีมเห็ด ต้นหอมญี่ปุ่น วาซาบิ ครีมข้าวโพด น่ากินอ่ะ

นอกจากเมนูหมูทอด ก็มี ebi ด้วย หรือกุ้งทอดนั่นเอง เมนูน่ารักดีนะ

อุปกรณ์บนโต๊ะ ก็จะมีน้ำสลัดสองแบบ แล้วก็ซอสที่ใช้กินกับของทอ

หน้าตาน้ำซอสชัดๆ สีสันดูดี และที่สำคัญ กลิ่นใช้ได้เลยล่ะ

สั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย พนักงานก็จะเอาถาดเปล่าๆ พร้อมเครื่องเคียงมาให้ แบบนี้

ได้ถาดมาปั๊ป ก็มาบดงากัน งาของร้านนี้ มีทั้งงาขาวและดำ ปนๆกันมา แล้วก็คั่วมาอย่างดี หอมมากๆ ชอบอ่ะ
ตอนบดนะ คนๆๆๆ บี้ๆๆๆ มันส์พะยะค่ะ 555

  มาดูเครื่องเคียงกัน ก็มีเต้าหู้ซีอิ้ว กับกระเจี๊ยบ เต้าหู้อร่อยดี ที่ชอบก็คือ เติมบ่ออั้นจร้าาาา...

และก็ตามธรรมเนียม ร้านอาหารยุ่น ต้องมีชาเขียวรีฟิล ฮ่าๆ

โอ๊ะ ว่ะ หะ หะ หะ !!! มาแล้วววว... หมูทอดของข้าพเจ้า มาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ และซุปมิโซะ

ดูดีมะ สีสันสวยเลยล่ะ แล้วก็เสิร์ฟมาพร้อมกับ กะหล่ำฝอย และสลัดมันฝรั่งด้วย ทั้งสองอย่างนี้ ก็เติมได้ไม่อ้้นนะจ๊ะ เยี่ยมไปเลย!
ปล. น้ำสลัดทั้งสองแบบที่มีให้ อร่อยเลยล่ะ

ซูมชัดๆ จะเห็นความกรอบนอกนุ่มใน ผ่านรูปได้เลยทีเดียว และก็ไม่ชุ่มน้ำมันเท่าไหร่ด้วย

วันนี้ เราสั่งไส้ ชีสสสสส มา -- คงเดากันไม่ผิดสินะ ^^" ก็ใครจะไปห้ามใจได้หล่ะ
เอ้า ออกเสียง ชีสสสส... กันหน่อย 55 ^_^ แค่ชื่อก็ยิ้มกันไม่หุบแล้ว ชีสสสสสสส...

ไส้ใส่มาล้นๆเลย ยืดได้ใจกันใช่ไหมล่ะพี่น้องงง --- ไม่ผิดหวังกับรสชาติจริงๆ แป้งกรอบ ไม่เลี่ยนมาก
ทีเด็ดคงเป็น หมูที่เป็นแผ่นบางๆ ซ้อนกันมาเป็นชั้นๆ เนี่ยแหละ เลยทำให้หมูนุ่ม แล้วก็รสชาติดี เราให้ผ่านฉลุยไปเลยยย...

กินกับซอสนี้ ผสมงาด้วยแล้ว ได้ใจไปเลย

และก็อีกจานนึง เป็นกุ้งชุบแป้งทอด แล้วก็สันในสองชิ้น กุ้งจะมีน้ำจิ้มมาให้อีกถ้วยนึง ชิมแล้วอร่อยดี

จะกุ้งจะหมู ก็น่ากิ้นนน... น่ากิน --- ให้สามคำ กรอบ นุ่ม หอม เป็นอันว่า ผ่านทั้งคู่ อร่อย ^^

อันนี้ก็คือ สลัดมันฝรั่ง ที่ให้มาข้างๆจาน ก็อยากจะบอกว่า อร่อยดีเหมือนกัน ใช้ได้ๆ

อย่างที่บอกว่า... เครื่องเคียงเติมไม่อั้นจ้า
ปล. คนที่มาเติม เป็นคนญี่ปุ่น! O_o โห... หน้าไม่บอกเลยนะนั่น ฮ่าๆ
แต่ตามสไตล์คนญี่ปุ่น มารยาทดี และกระตือรือร้นมาก ขอกดไลค์ให้ทีนึงได้ป่ะ อิอิ

และทุกเมนู ก็จะมีไอติมชาเขียว ให้คนละก้อนด้วย เป็นของหวานปิดท้ายกัน ดีเนอะ

เนื้อไอศกรีม เหนียวและนุ่ม กำลังดี แต่ว่า เราไม่ค่อยชอบรสชาติเท่าไหร่ --- แต่ก็กินได้อ่ะนะ ^^"
 
สรุปเลยละกันน้าาาา...

1. รสชาติ --- ค่อนข้างดีเลยทีเดียวร้านนี้ คงแวะมากินอีกเรื่อยๆ แน่

2. บรรยากาศ --- ธรรมดา ทั่วไป ตามสไตล์ญี่ปุ่นเค้าหล่ะ

3. บริการ --- พนักงานไทยก็ธรรมดา แต่พี่ยุ่นนี่สิ กระตือรือร้นมาก ทั้งที่พูดไทยก็ไม่ได้ แต่พยายามบริการมากๆ

4. ราคา --- เซ็ตละสองร้อยกว่าๆ และ ถ้าเทียบกับร้านอาหารทั่วไป ก็ไม่แพงเท่าไหร่ โอเคกินได้ร้านนี้ ^^


7 มิถุนายน 2555

เหล่ากุ้ย บะหมี่อัศวิน

วันนี้ เราพาไปชิมอาหารแบบง่ายๆ ริมถนน แต่รสชาติเด็ด จนเราชอบแวะกันไปกินบ่อยๆ ร้านนี้มีชื่อว่า "เหล่ากุ้ย" บะหมี่อัศวิน จ้า ท้องพร้อม ก็ลุยกันเลยยย...


ร้าน "เหล่ากุ้ย บะหมี่อัศวิน พ.ศ. 2548" ชื่อยาวดีเนอะ 555 ตั้งอยู่ที่ซอยหมู่บ้านปรีชา 8 ตรงถนนหัวหมากจ้า

นี่คือทางเข้า ซึ่งเราต้องเดินผ่านครัวก่อน เอิ่ม... ก็อย่างที่เห็นอ่ะเนอะ ^^"

นี่คือ บรรยากาศภายในร้านจ้า ดูเก่ามั๊ย? 55 ร้านค่อนข้างเล็ก เป็นเหมือนห้องแถว คูหาเดียว แต่ก็มีโต๊ะเยอะอยู่
จริงๆแล้ว ร้านนี้เค้ามีห้องติดแอร์ อยู่ติดๆกัน ก็สะดวกและจะใหม่กว่านี้ แต่เราชอบแบบนี้มากกว่า ไม้ๆ ดูขลังดี ฮ่าๆ :P

ที่เก๋ ก็คือ โต๊ะจ้า เค้าเอาจักรเย็บผ้ามาดัดแปลงหล่ะ เจ๋งไปเลย เนอะๆ

เอ้า... มาดูเมนูกัน เมนูที่โดดเด่น ก็อยู่ด้านหน้านี้จ้า
ส่วนอีกด้าน ก็จะมีหลายอย่างอยู่นะ ก็จะเป็นประเภทก๊วยเตี๋ยว ข้าว ของทานเล่น น่ากินๆ

ระหว่างรออาหาร ก็มาดูอุปกรณ์บนโต๊ะเราซะก่อน สไตล์บ้านๆ มีชากาด้วย
หันมาอีกด้านนึง ก็จะเห็นรูปภาพเก่าๆ ข้าวของเครื่องใช้สมัยยุคก่อน ประดับประดาเต็มผนังเลยหล่ะ

เมนูแรกมาละ "ยำกระฉูด" แค่เห็นน้ำลายก็สอ! ชื่อเมนูสร้างสรรค์มั๊ย? อิอิ

เราหิวป่าวไม่รุ แต่รู้สึกว่าจานมันเล็กกกกก... จัง ฮ่าๆๆ ยำกระฉูดจานนี้ ก็เครื่องเยอะนะ คือ มีหลายอย่าง วุ้นเส้น ผัก ทะเล มากันครบจ้า

รสชาติก็เป็นยำแบบไทยๆ เลย คือ รสจัดจ้าน ออกเปรี้ยวนำ ก็ทานได้เพลินๆ แป๊ปเดียวหมดละ

จานแนะนำอีกจาน คือ "ออส่วนหอยนางรม" มาในกะทะร้อน เดือดปุ๊ดๆ ควันลอยฟุ้งๆ เลย ห๊อมม... หอมมม...
 
จานนี้ ต้องบอกว่า หอยนางรมตัวใหญ่ และสด ไม่มีกลิ่นคาวเลย ตัวออส่วนก็กำลังดี ไม่เหนียวจนเกินไป แล้วก็ไม่รู้สึกว่าใส่แป้งเยอะเกิน ดังนั้น จานนี้ผ่านจ้า!

อีกหนึ่งจานแนะนำ คือ "คั่วไก่เศรษฐี"

สมกับชื่อเศรษฐี เพราะว่าใส่เครื่องมาเยอะมากกกก... เรียกว่าล้นอ่ะ

ที่แตกต่างก็คือ เค้าใส่ เป๋าฮื๊อ มาด้วย แม่เจ้า!

ส่วนกุ้งก็ตัวใหญ่ แล้วก็สด พอทานรวมๆกันแล้ว อร่อยอ่ะ ชอบเลยนะจานนี้

ขอสรุปราคาละกันเนอะ
- ยำกระฉูด 50 บาท
- ออส่วนหอยนางรม 70 บาท
- คั่วไก่เศรษฐี 120 บาท
ราคา เทียบกับคุณภาพอาหาร เราว่าโอนะ


ปิดท้าย ร้านนี้เปิดตั้งแต่เที่ยงวัน ถึงสี่ทุ่มครึ่ง น้าาาา... ใครแวะมาแถวนี้ น่ามาลองชิมกันนะจ้ะ ^^